3tei เป็นหลักการที่เกี่ยวข้องกับการลดความสูญเสียในกระบวนการผลิต มี 3 องค์ประกอบหลักคือ
- Tei-ichi (定位置) – การกำหนดตำแหน่งที่แน่นอนสำหรับสิ่งของต่างๆ
- Tei-ryo (定量) – การกำหนดปริมาณที่เหมาะสมสำหรับสิ่งของต่างๆ
- Tei-gen (定元) – การกำหนดแหล่งที่มาของสิ่งของต่างๆ
ความสำคัญของ 5ส และ 3tei
5ส และ 3tei เป็นเครื่องมือสำคัญในการปรับปรุงประสิทธิภาพและคุณภาพของงาน ช่วยลดความสูญเสีย เพิ่มผลผลิต และสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดี
วิธีปฏิบัติ 3tei (3tei)
3tei เป็นหลักการที่มุ่งเน้นการลดความสูญเสียและเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต โดยมีองค์ประกอบหลัก 3 ประการ ได้แก่
Tei-ichi (定位置) – การกำหนดตำแหน่งที่แน่นอนสำหรับสิ่งของต่างๆ
วัตถุประสงค์: เพื่อให้ทุกคนรู้ว่าสิ่งของแต่ละชิ้นอยู่ที่ไหน และสามารถหยิบใช้งานได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย
วิธีการปฏิบัติ:*
กำหนดตำแหน่งที่ชัดเจนสำหรับสิ่งของแต่ละประเภท เช่น เครื่องมือ อุปกรณ์ วัตถุดิบ และผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป
ใช้ป้ายชื่อ สี หรือสัญลักษณ์อื่นๆ เพื่อบ่งบอกตำแหน่งของสิ่งของ
จัดวางสิ่งของให้เป็นระเบียบและเป็นหมวดหมู่
กำหนดพื้นที่สำหรับจัดเก็บสิ่งของแต่ละประเภท
ทบทวนและปรับปรุงตำแหน่งของสิ่งของอย่างสม่ำเสมอ
Tei-ryo (定量) – การกำหนดปริมาณที่เหมาะสมสำหรับสิ่งของต่างๆ
วัตถุประสงค์: เพื่อให้มีสิ่งของที่จำเป็นในปริมาณที่เพียงพอต่อการใช้งาน ไม่มากเกินไปจนเกิดการสูญเสีย หรือน้อยเกินไปจนทำให้การทำงานหยุดชะงัก
วิธีการปฏิบัติ:*
วิเคราะห์ปริมาณการใช้งานสิ่งของแต่ละประเภท
กำหนดปริมาณที่เหมาะสมสำหรับสิ่งของแต่ละประเภท โดยคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ เช่น ความถี่ในการใช้งาน ระยะเวลาในการจัดซื้อ และพื้นที่จัดเก็บ
ควบคุมปริมาณสิ่งของในคลังสินค้าให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
ตรวจสอบและปรับปรุงปริมาณสิ่งของอย่างสม่ำเสมอ
Tei-gen (定元) – การกำหนดแหล่งที่มาของสิ่งของต่างๆ
วัตถุประสงค์: เพื่อให้ทราบว่าสิ่งของแต่ละชิ้นมาจากที่ไหน ใครเป็นผู้รับผิดชอบ และสามารถติดตามแหล่งที่มาของสิ่งของได้เมื่อมีปัญหา
วิธีการปฏิบัติ:*
กำหนดรหัสหรือหมายเลขสำหรับสิ่งของแต่ละชิ้น
บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งที่มาของสิ่งของ เช่น ผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย วันที่ผลิต และวันที่หมดอายุ
ติดตามและตรวจสอบแหล่งที่มาของสิ่งของอย่างสม่ำเสมอ
ความเชื่อมโยงกับ 5ส
3tei มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับ 5ส โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการจัดระเบียบและการทำความสะอาด การปฏิบัติตามหลัก 3tei จะช่วยให้การดำเนินงานตามหลัก 5ส เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ประโยชน์ของ 3tei
- ลดความสูญเสียในกระบวนการผลิต
- เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
- ปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์
- สร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดี
- สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าและพนักงาน
3tei เป็นหลักการที่สำคัญในการจัดการสิ่งของและวัตถุดิบในกระบวนการผลิต การปฏิบัติตามหลัก 3tei จะช่วยให้องค์กรสามารถลดความสูญเสีย เพิ่มประสิทธิภาพ และปรับปรุงคุณภาพได้อย่างยั่งยืน
Tei-ichi (定位置) คือการกำหนดตำแหน่งที่แน่นอนสำหรับสิ่งของต่างๆ เพื่อให้ทุกคนรู้ว่าสิ่งของแต่ละชิ้นอยู่ที่ไหน และสามารถหยิบใช้งานได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหลักการ 3tei ในการลดความสูญเสียและเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต
ขั้นตอนการทำ Tei-ichi เพื่อการใช้งานที่ถูกต้อง
- ระบุสิ่งของที่ต้องจัดระเบียบ:
- พิจารณาว่ามีสิ่งของใดบ้างที่ต้องจัดเก็บและกำหนดตำแหน่ง เช่น เครื่องมือ อุปกรณ์ วัตถุดิบ และผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป
- เลือกสิ่งของที่ใช้บ่อยและมีความสำคัญต่อการทำงานก่อน
- กำหนดตำแหน่งที่เหมาะสม:
- เลือกตำแหน่งที่สิ่งของนั้นๆ จะถูกใช้งานบ่อยที่สุด เพื่อลดการเคลื่อนย้ายและประหยัดเวลา
- พิจารณาความปลอดภัยในการจัดเก็บและการหยิบใช้งาน
- กำหนดตำแหน่งที่มองเห็นได้ง่ายและเข้าถึงได้สะดวก
- จัดวางสิ่งของให้เป็นระเบียบ:
- จัดวางสิ่งของให้เป็นหมวดหมู่ตามประเภทหรือการใช้งาน
- จัดวางสิ่งของให้มีระยะห่างที่เหมาะสม เพื่อให้หยิบใช้งานได้ง่ายและไม่กีดขวางกัน
- ใช้ป้ายชื่อ สี หรือสัญลักษณ์อื่นๆ เพื่อบ่งบอกตำแหน่งของสิ่งของ
- ทำเครื่องหมายและบันทึกตำแหน่ง:
- ทำเครื่องหมายบนสิ่งของและตำแหน่งที่จัดเก็บ เพื่อให้ทุกคนทราบตำแหน่งที่ถูกต้อง
- บันทึกตำแหน่งของสิ่งของในระบบหรือเอกสาร เพื่อใช้อ้างอิงและติดตาม
- สื่อสารและฝึกอบรม:
- แจ้งให้ทุกคนทราบเกี่ยวกับตำแหน่งของสิ่งของ และวิธีการใช้งานอย่างถูกต้อง
- จัดฝึกอบรมหรือแนะนำวิธีการจัดเก็บและค้นหาสิ่งของ เพื่อให้ทุกคนเข้าใจและปฏิบัติตาม
- ตรวจสอบและปรับปรุง:
- ตรวจสอบความถูกต้องและเหมาะสมของตำแหน่งสิ่งของอย่างสม่ำเสมอ
- ปรับปรุงตำแหน่งสิ่งของตามความจำเป็น เพื่อให้การใช้งานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ตัวอย่างการนำ Tei-ichi ไปใช้
- ในโรงงาน: กำหนดตำแหน่งที่ชัดเจนสำหรับเครื่องมือแต่ละชนิด เช่น คีม ไขควง และประแจ โดยใช้แผงเครื่องมือหรือกล่องเครื่องมือที่มีป้ายชื่อ
- ในสำนักงาน: จัดวางเอกสารและอุปกรณ์สำนักงานให้เป็นระเบียบ โดยใช้ตู้เก็บเอกสาร ลิ้นชัก หรือกล่องเก็บของที่มีป้ายชื่อ
- ในบ้าน: จัดเก็บเครื่องครัวในตำแหน่งที่เหมาะสม เช่น หม้อ กระทะ และจานชาม โดยใช้ตู้เก็บของหรือชั้นวางของที่มีป้ายชื่อ
ประโยชน์ของ Tei-ichi
- ลดเวลาการค้นหาสิ่งของ: เมื่อสิ่งของทุกชิ้นมีตำแหน่งที่แน่นอน ทำให้สามารถค้นหาและหยิบใช้งานได้อย่างรวดเร็ว
- เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน: การลดเวลาในการค้นหาสิ่งของ ช่วยให้มีเวลาในการทำงานมากขึ้น
- ลดความสูญเสีย: การจัดเก็บสิ่งของอย่างเป็นระเบียบ ช่วยลดความเสียหายและการสูญหายของสิ่งของ
- สร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดี: การจัดระเบียบสิ่งของ ช่วยให้สถานที่ทำงานสะอาดตาและปลอดภัย

Tei-ichi เป็นหลักการที่สำคัญในการจัดการสิ่งของและวัตถุดิบ การปฏิบัติตามหลัก Tei-ichi จะช่วยให้องค์กรและบุคคลทั่วไปสามารถลดความสูญเสีย เพิ่มประสิทธิภาพ และปรับปรุงคุณภาพชีวิตได้อย่างยั่งยืน
Tei-ryo (定量) คือการกำหนดปริมาณที่เหมาะสมสำหรับสิ่งของต่างๆ เพื่อให้มีสิ่งของที่จำเป็นในปริมาณที่เพียงพอต่อการใช้งาน ไม่มากเกินไปจนเกิดการสูญเสีย หรือน้อยเกินไปจนทำให้การทำงานหยุดชะงัก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหลักการ 3tei ในการลดความสูญเสียและเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต
ขั้นตอนวิธีการปฏิบัติ Tei-ryo อย่างละเอียด
- วิเคราะห์ปริมาณการใช้งานสิ่งของ:
- พิจารณาว่าสิ่งของแต่ละประเภทถูกใช้งานบ่อยแค่ไหน และมีแนวโน้มการใช้งานอย่างไรในอนาคต
- รวบรวมข้อมูลสถิติเกี่ยวกับการใช้งานสิ่งของในอดีต เช่น ปริมาณการใช้ต่อวัน ต่อสัปดาห์ หรือต่อเดือน
- วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อปริมาณการใช้งาน เช่น ฤดูกาล ความต้องการของลูกค้า หรือแผนการผลิต
- กำหนดปริมาณที่เหมาะสม:
- กำหนดปริมาณที่เหมาะสมสำหรับสิ่งของแต่ละประเภท โดยคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ที่วิเคราะห์ได้
- พิจารณาความถี่ในการจัดซื้อ หรือการผลิตสิ่งของนั้นๆ
- คำนึงถึงพื้นที่จัดเก็บ และงบประมาณในการจัดซื้อ
- กำหนดระดับสต็อก:
- กำหนดระดับสต็อกขั้นต่ำ (Minimum Stock) เพื่อป้องกันการขาดแคลนสิ่งของ
- กำหนดระดับสต็อกสูงสุด (Maximum Stock) เพื่อป้องกันการมีสิ่งของมากเกินไปจนเกินความจำเป็น
- กำหนดจุดสั่งซื้อใหม่ (Reorder Point) คือระดับสต็อกที่ต้องสั่งซื้อเพิ่ม เพื่อให้มีสิ่งของเพียงพอต่อการใช้งานอย่างต่อเนื่อง
- ควบคุมปริมาณสิ่งของในคลังสินค้า:
- ติดตามและตรวจสอบปริมาณสิ่งของในคลังสินค้าอย่างสม่ำเสมอ
- บันทึกข้อมูลการรับเข้า และการจ่ายออกของสิ่งของ
- ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ หรือโปรแกรมจัดการคลังสินค้า เพื่อช่วยในการควบคุมปริมาณสิ่งของ
- ตรวจสอบและปรับปรุง:
- ตรวจสอบความถูกต้องและเหมาะสมของปริมาณสิ่งของที่กำหนดไว้อย่างสม่ำเสมอ
- ปรับปรุงปริมาณสิ่งของตามความจำเป็น โดยพิจารณาจากข้อมูลการใช้งานจริง และปัจจัยอื่นๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป
ตัวอย่างการประยุกต์ใช้ Tei-ryo
ในโรงงาน:
กำหนดปริมาณวัตถุดิบที่เหมาะสมสำหรับการผลิตสินค้าแต่ละประเภท / กำหนดปริมาณสินค้าสำเร็จรูปที่ต้องผลิต เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า / กำหนดปริมาณวัสดุสิ้นเปลืองที่ต้องสำรองไว้ เช่น น้ำมันหล่อลื่น หรืออุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัย
ในร้านค้า:
กำหนดปริมาณสินค้าที่ต้องสั่งซื้อมาจำหน่าย เพื่อให้มีสินค้าเพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า / กำหนดปริมาณสินค้าคงคลังที่เหมาะสม เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บ
ในบ้าน:
กำหนดปริมาณอาหารที่ต้องซื้อมาเก็บไว้ในตู้เย็น เพื่อไม่ให้อาหารเหลือทิ้ง / กำหนดปริมาณของใช้ในบ้านที่ต้องสำรองไว้ เช่น สบู่ ยาสีฟัน หรือกระดาษชำระ
ประโยชน์ของ Tei-ryo
- ลดค่าใช้จ่าย: การมีสิ่งของในปริมาณที่เหมาะสม ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อ การจัดเก็บ และการจัดการ
- เพิ่มประสิทธิภาพ: การมีสิ่งของที่จำเป็นในปริมาณที่เพียงพอ ช่วยให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ
- ลดความสูญเสีย: การมีสิ่งของมากเกินไป อาจทำให้เกิดการสูญเสียเนื่องจากหมดอายุ หรือเสียหาย การกำหนดปริมาณที่เหมาะสม ช่วยลดความเสี่ยงในส่วนนี้ได้
- ปรับปรุงการวางแผน: การวิเคราะห์ปริมาณการใช้งานสิ่งของ ช่วยให้สามารถวางแผนการผลิต หรือการจัดซื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Tei-ryo เป็นหลักการที่สำคัญในการจัดการสิ่งของและวัตถุดิบ การปฏิบัติตามหลัก Tei-ryo จะช่วยให้องค์กรและบุคคลทั่วไปสามารถลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และลดความสูญเสียได้อย่างยั่งยืน
Tei-gen (定元) คืออะไร? Tei-gen (定元) คือการกำหนดแหล่งที่มาของสิ่งของต่างๆ เพื่อให้ทราบว่าสิ่งของแต่ละชิ้นมาจากที่ไหน ใครเป็นผู้รับผิดชอบ และสามารถติดตามแหล่งที่มาของสิ่งของได้เมื่อมีปัญหา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหลักการ 3tei ในการลดความสูญเสียและเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต
ขั้นตอนวิธีการปฏิบัติ Tei-gen อย่างละเอียด
- ระบุสิ่งของที่ต้องติดตาม:
- พิจารณาว่ามีสิ่งของใดบ้างที่ต้องติดตามแหล่งที่มา เช่น วัตถุดิบ ชิ้นส่วนประกอบ สินค้าสำเร็จรูป หรือเครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ
- เลือกสิ่งของที่มีความสำคัญต่อกระบวนการผลิต หรือมีความเสี่ยงสูงหากเกิดปัญหา
- กำหนดข้อมูลที่ต้องบันทึก:
- กำหนดข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการติดตามแหล่งที่มาของสิ่งของ เช่น
- ชื่อผู้ผลิต หรือผู้จัดจำหน่าย
- วันที่ผลิต หรือวันที่จัดส่ง
- หมายเลขล็อต หรือหมายเลขผลิตภัณฑ์
- ข้อมูลจำเพาะของสิ่งของ
- สถานที่จัดเก็บ
- กำหนดข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการติดตามแหล่งที่มาของสิ่งของ เช่น
- สร้างระบบการบันทึกข้อมูล:
- เลือกระบบการบันทึกข้อมูลที่เหมาะสมกับความต้องการขององค์กร เช่น
- ระบบเอกสาร: ใช้แบบฟอร์มหรือสมุดบันทึกเพื่อบันทึกข้อมูล
- ระบบคอมพิวเตอร์: ใช้โปรแกรมจัดการฐานข้อมูล หรือโปรแกรม ERP (Enterprise Resource Planning)
- ระบบบาร์โค้ด หรือ RFID (Radio-frequency identification): ใช้เทคโนโลยีในการอ่านและบันทึกข้อมูลอัตโนมัติ
- เลือกระบบการบันทึกข้อมูลที่เหมาะสมกับความต้องการขององค์กร เช่น
- ติดป้ายหรือทำเครื่องหมาย:
- ติดป้ายหรือทำเครื่องหมายบนสิ่งของแต่ละชิ้น เพื่อเชื่อมโยงสิ่งของกับข้อมูลที่บันทึกไว้
- ใช้รหัสหรือหมายเลขที่ชัดเจนและเป็นเอกลักษณ์ เพื่อป้องกันความสับสน
- จัดเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ:
- จัดเก็บข้อมูลที่บันทึกไว้อย่างเป็นระบบ เพื่อให้ง่ายต่อการค้นหาและเรียกดู
- กำหนดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูล เพื่อรักษาความลับและความถูกต้องของข้อมูล
- ตรวจสอบและปรับปรุง:
- ตรวจสอบความถูกต้องและครบถ้วนของข้อมูลที่บันทึกไว้อย่างสม่ำเสมอ
- ปรับปรุงระบบการบันทึกข้อมูลตามความจำเป็น เพื่อให้การติดตามแหล่งที่มาของสิ่งของมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ตัวอย่างการประยุกต์ใช้ Tei-gen
- ในอุตสาหกรรมอาหาร:
- ติดตามแหล่งที่มาของวัตถุดิบ เช่น ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยของอาหาร
- ติดตามล็อตการผลิตของสินค้า เพื่อให้สามารถเรียกคืนสินค้าได้หากเกิดปัญหา
- ในอุตสาหกรรมยา:
- ติดตามแหล่งที่มาของวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตยา
- ติดตามหมายเลขล็อตของยา เพื่อให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้หากเกิดปัญหา
- ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์:
- ติดตามแหล่งที่มาของชิ้นส่วนประกอบต่างๆ
- ติดตามหมายเลขผลิตภัณฑ์ เพื่อให้สามารถให้บริการหลังการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ประโยชน์ของ Tei-gen
- เพิ่มความน่าเชื่อถือ: การทราบแหล่งที่มาของสิ่งของ ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าในคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้า
- ลดความเสี่ยง: การติดตามแหล่งที่มาของสิ่งของ ช่วยให้สามารถจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
- ปรับปรุงคุณภาพ: การวิเคราะห์ข้อมูลแหล่งที่มาของสิ่งของ ช่วยให้สามารถระบุจุดที่ต้องปรับปรุงในกระบวนการผลิตได้
- เพิ่มประสิทธิภาพ: การมีข้อมูลแหล่งที่มาของสิ่งของ ช่วยให้การจัดการคลังสินค้าและการวางแผนการผลิตเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

Tei-gen เป็นหลักการที่สำคัญในการจัดการสิ่งของและวัตถุดิบ การปฏิบัติตามหลัก Tei-gen จะช่วยให้องค์กรและบุคคลทั่วไปสามารถเพิ่มความน่าเชื่อถือ ลดความเสี่ยง ปรับปรุงคุณภาพ และเพิ่มประสิทธิภาพได้อย่างยั่งยืน
3tei มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับ 5ส โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการจัดระเบียบและการทำความสะอาด การปฏิบัติตามหลัก 3tei จะช่วยให้การดำเนินงานตามหลัก 5ส เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นครับ