อบรม “การบำรุงรักษาเชิงป้องกันและการจัดการงานบำรุงรักษา”🔨🔩🔧

22 มิถุนายน 2564: อาจารย์ไมตรี บุญขันธ์ ได้ฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ ในหลักสูตร..🔨🔩🔧“การบำรุงรักษาเชิงป้องกันและการจัดการงานบำรุงรักษา”🔨🏁✌ ครับ
ขอบคุณ Vickk training และ โรงพยาบาลพริ้นซ์ อุบลราชธานี ด้วยครับ

PM : Preventive Maintenance คือ การคาดการณ์และป้องกันความเสียหายของอุปกรณ์ในอนาคต เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะทำการตรวจสอบ, บำรุงรักษาและซ่อมแซมอุปกรณ์หรือวัสดุอยู่ตลอดเพื่อให้แน่ใจว่าพวกมันสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งวิธีการนี้ยังช่วยลดการบำรุงรักษาเชิงรับรวมถึงยังมีเวลาเพิ่มในการทำงานด้านอื่นๆอีกด้วย

ตามหลักทั่วไป การป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นล่วงหน้านั้นถือว่าดีกว่าอยู่แล้ว การบำรุงรักษาเชิงป้องกันช่วยลดโอกาสที่จะเกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดโดยการส่งเสริมประสิทธิภาพของอุปกรณ์ที่ดีที่สุด รายการต่อไปนี้แสดงถึงวิธีการบางประการที่ทีมดูและทรัพย์สินและฝ่ายซ่อมบำรุงสามารถอยู่เหนือการบำรุงรักษาเชิงป้องกันในแผนกของตนได้:

กำหนดเวลาและดำเนินการตรวจสอบอุปกรณ์อย่างสม่ำเสมอ
ทำความเครื่องจักรและทรัพย์สินเป็นประจำ
หล่อลื่นชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวเพื่อลดการสึกหรอ
ปรับการควบคุมประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ดีที่สุด
ซ่อมแซมและเปลี่ยนชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่ชำรุด
ดูแลน้ำมันหล่อลื่นให้สะอาดอยู่เสมอ

การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน (Preventive Maintenance) มีเป้าหมายครอบคลุม 2 ประการ : เพื่อยืดอายุการใช้งานของเครื่องจักร และเพิ่มผลผลิต และ เพื่อให้ผู้คนและทรัพย์สินปลอดภัยจากอันตรายจากอุปกรณ์ต่างๆ ผู้จัดการฝ่ายซ่อมบำรุงและทีมสามารถใช้หลักการของการบำรุงรักษาเชิงป้องกันเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่างๆ ดังต่อไปนี้

ประหยัดเงินโดยการยืดอายุการใช้งานให้นานขึ้น
เพิ่มความปลอดภัยและลดโอกาสบาดเจ็บของพนักงาน
ลดค่าเสื่อมสภาพที่ไม่จำเป็นของอุปกรณ์ต่างๆลง
ป้องกันอุปกรณ์หลักพังก่อนเวลาอันควร
ลดขั้นตอนการตรวจสอบและตรวจจับที่ไม่จำเป็นลง
พร้อมรับมือและป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
ลดข้อผิดพลาดในการดำเนินงานประจำวันลง
ปรับปรุงความน่าเชื่อถือของอุปกรณ์ (Machine Reliability)

ตัวแปรสำคัญที่มีผลกระทบต่องานซ่อมบำรุงจะมี 5 ตัวแปรสำคัญๆคือ

การพังของเครื่องจักรแบบไม่พึงประสงค์ (Efficiency & Downtime)
การบริหารจัดการประเภทของใบงานซ่อม (Maintenance work order management)
การตอบสนองของทีมซ่อม (Maintenance responsible ability)
ประสิทธิภาพ และอายุการใช้งานเครื่องจักร (Asset life cycle & performance)
ค่าใช้จ่ายในงานซ่อมและการบำรุงรักษา (Maintenance cost and budget)
ซึ่งทั้ง 5 ตัวแปรนี้สามารถตั้งเป็น Kpi ของแผนกซ่อมบำรุงเพื่อให้สอดคล้องกับระบบ ISO ได้อีกด้วย

หลักปฏิบัติของงานบำรุงรักษา

ป้องกันการเสื่อมสภาพกะทันหันของเครื่องจักร และอุปกรณ์

การตรวจสอบ (Inspection) และการวัดความเสื่อมสภาพของเครื่องจักรและอุปกรณ์โดยสม่ำเสมอ

ยืดอายุการใช้งานของเครื่องจักรและอุปกรณ์ ซึ่งได้แก่การใช้เครื่องจักรให้ถูกต้อง ถูกวิธี ไม่ให้เกินกำลัง การหล่อลื่นถูกต้องและสม่ำเสมอ

การทำให้เครื่องจักรอุปกรณ์ที่เสีย หรือขัดข้องกลับคืนสู่สภาพเดิมโดยเร็ว

การขจัดการบำรุงรักษา คือการทำการบำรุงรักษาให้ง่ายและสะดวก

การปรับปรุงเครื่องจักรและอุปกรณ์ให้คงหรือมีสภาพและสมรรถนะสูงขึ้น และง่ายต่อการบำรุงรักษา

มีการจัดการเรื่องอะไหล่ ชิ้นส่วน และวัสดุซ่อมบำรุงอย่างมีประสิทธิภาพ

ดำเนินการบำรุงรักษาให้เป็นไปตามแผนงานบำรุงรักษาที่ได้วางไว้

ดำเนินการบำรุงรักษา และงานซ่อมแซมโดยยึดหลักความปลอดภัย

นอกจากนี้ในระบบซ่อมบำรุงยังมีเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งในตัวของระบบซ่อมบำรุงเชิงป้องกันเองยังมีเอกสารที่เกี่ยวข้องอีกมากมาย รวมถึงที่เกี่ยวข้องกับระบบ ISO 9001-2015 ซึ่งหลักสูตรนี้จะได้มีการบอกถึงเอกสารที่สำคัญเหล่านี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการทำระบบ ISO ที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *